รายละเอียดบนแก้มยาง
บางอย่างรู้กันผิดๆ บางอย่างยังไม่รู้
อย่าเพิ่งคิดว่าบทความนี้เป็นเรื่องเก่าๆ ที่รู้แล้ว เพราะบางอย่างก็รู้มาผิดๆ และอีกหลายอย่างอาจยังไม่รู้
ยางเส้นนี้กว้างเท่าไร ? 185 ใช่ความกว้างของหน้ายางจริงไหม ? เมื่อไรถึงเรียกว่าดอกหมด ? เดาเอาหรือมีตัวบอก ? ผลิตเมื่อไร เก่าเก็บหรือไม่ ? ถามที่ร้านก็ไม่มีใครบอก !
การเลือกซื้อยางรถยนต์มิได้สำคัญแค่ยี่ห้อ, รุ่น, ขนาด และราคาเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสนใจ และมักปรากฏอยู่บนแก้มยาง
ยางรถยนต์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคู่มือประกอบการใช้งานแถมมาให้แบบตัวรถยนต์ โดยอาจมีรายละเอียดอยู่บนห่อบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับบนแก้มยาง ที่มีเกือบทุกอย่างที่ควรทราบเกี่ยวกับยางเส้นนั้น พอจะเอายางมาใส่กับกระทะล้อก็แกะห่อทิ้งไป
รายละเอียดบนแก้มยางมีมากมายจนลายตา และไม่ได้สำคัญแค่ขนาด ความเร็วสูงสุด และน้ำหนักบรรทุกที่ยางเส้นนั้นรับได้เท่านั้น ยังมีรายละเอียดอื่นที่น่าสนใจอีกด้วย แต่ก็มิได้สำคัญไปทุกตัวเลขทุกตัวอักษร จึงควรเลือกอ่านและเลือกทำความเข้าใจ
![]() บอกขนาดยาง, ตัวเลขบอกสัปดาห์และปีที่ผลิต และขวาสุดเป็นหมึกปั๊ม ผลิตเดือน 9 ปี 2543 |
ขนาด
รหัสบอกขนาด เช่น 195/60R15 87V
195 คือ ความกว้างของยาง ไม่ใช่ความกว้างของหน้ายางตามที่เข้าใจกัน ! (หน่วยเป็นมิลลิเมตร)
60 คือ ซีรีส์ หรือความสูงของแก้มยางทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะส่วนที่เห็นเมื่อใส่กับกระทะล้อแล้ว แต่รวมขอบด้านในที่แนบกับขอบกระทะล้ออยู่ด้วย เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์จากความกว้างของยาง หรือตัวเลขกลุ่มแรก (ซีรีส์ระบุเป็นเปอร์เซนต์ ไม่ใช่มิลลิเมตร)
R คือ ตัวย่อประเภทของยาง R-RADIAL ยางเสริมใยเหล็ก
![]() ยางรุ่นนี้กว้าง 185 มิลลิเมตร แต่มีหน้าสัมผัสพื้น 160 มิลลิเมตร ![]() ยางรุ่นนี้กว้าง 195 มิลลิเมตร แต่มีหน้าสัมผัสพื้น 175 มิลลิเมตร ![]() ยางรุ่นนี้กว้าง 175 มิลลิเมตร แต่มีหน้าสัมผัสพื้น 140 มิลลิเมตร ![]() ยางขนาด 185 ซีรีส์ 65 มีแก้มยางสูง 120.25 มิลลิเมตร โดยวัดจากขอบของหน้ายางถึงขอบในสุด ![]() ยางขนาด 195 ซีรีส์ 60 มีแก้มยางสูง 117 มิลลิเมตร โดยวัดจากหน้ายางถึงขอบในสุด ![]() กระทะล้อขนาด 13 นิ้ว ไม่ได้วัดถึงขอบนอก แต่วัดถึงแค่จุดในสุดที่ยางแนบกับขอบกระทะ |
15 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อ (หน่วยเป็นนิ้ว) ซึ่งต้องพอดีกับยาง (ส่วนความกว้างนั้นพอจะยืดหยุ่นกันได้)
87 คือ รหัสการรับน้ำหนัก ต้องดูในตารางเปรียบเทียบ เดาไม่ได้ มีหน่วยเป็นกิโลกรัม
V คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางเส้นนั้นรองรับได้ ต้องดูในตารางเปรียบเทียบ เดาไม่ได้ พบอักษร S T U H V Z R บ่อย มีหน่วยเป็นกิโลเมตร/ชั่วโมง
![]() ตัวเลข 99 ต่อท้ายขนาดยาง บอกการรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น และตัวอักษรใช้บอกความเร็วสูงสุดที่ยางรับได้ ต้องเทียบจากตางราง และจะเห็นว่ามีรายละเอียดบอกอยู่มากมายจนลายตา |
195 จากตัวอย่าง ไม่ใช่ความกว้างของหน้ายาง
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ตัวเลขความกว้างของยาง (ในตัวอย่างนี้ คือ 195) ซึ่งเป็นตัวปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นความกว้างของหน้ายาง ที่สัมผัสพื้นระหว่างซ้ายสุด-ขวาสุด ซึ่งในหลักการจริงนั้น ไม่ใช่ !
เพราะตัวเลขนั้นเป็นความกว้างของยางในส่วนที่กว้างที่สุด ระหว่างด้านขวา-ซ้าย ซึ่งอยู่บริเวณช่วงป่องสุดของแก้มยาง เมื่อยางเส้นนั้นถูกนำไปใส่ในกระทะล้อที่มีความกว้างเหมาะสม และสูบลมแล้ว
ความกว้างของยางที่ระบุไว้ วัดจากบริเวณจุดที่ป่องที่สุดของแก้มยาง (รวมตัวอักษรตัวเลขนูนๆ ในจุดที่วัดด้วย-ถ้ามี) ไม่ใช่บริเวณหน้ายางที่สัมผัสพื้น ส่วนหน่วยความกว้างเป็นมิลลิเมตรนั้นถูกต้องแล้ว
อย่าสับสนระหว่างความกว้างของยาง กับความกว้างของหน้ายาง !
โดยเฉพาะยางสำหรับรถยนต์ทั่วไป ตัวเลขที่ระบุบนแก้มยาง คือ ความกว้างของยาง ซึ่งมักมีหน้ายางที่สัมผัสพื้นจริงๆ น้อยกว่าตัวเลขที่ระบุไว้ ประมาณ 15-35 มิลลิเมตร แตกต่างกันในยางแต่ละรุ่นและยี่ห้อ (สามารถทดลองวัดได้ด้วยไม้บรรทัด) จึงมีส่วนทำให้ยางขนาดความกว้างดียวกัน มีประสิทธิภาพการเกาะถนนต่างกัน เพราะตัวความกว้างของหน้ายางจริงๆ แตกต่างกัน
จากการทดลองวัดจริง พบว่ายางขนาดความกว้างเดียวกัน (ตามที่ระบุไว้) ในยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่นกัน มีความกว้างของหน้ายางต่างกันถึง 5-10 มิลลิเมตร หรือในยางต่างขนาดกัน-ต่างยี่ห้อกัน เมื่อลองวัดดูแล้วกลับพบว่า ยางที่ระบุเลขความกว้างไว้ 195 มิลลิเมตร (ในขนาด 195/60/14) กลับมีหน้าสัมผัสพื้นพอๆ กับยางอีกยี่ห้อที่ระบุตัวเลขความกว้างไว้แค่ 185 มิลลิเมตร (ในขนาด 185/65/14) คือ หน้ายางสัมผัสพื้นประมาณ 160 มิลลิเมตรใกล้เคียงกัน
ดังนั้นถ้าสงสัยความกว้างของหน้ายางเส้นใด ก็สามารถใช้ตลับเมตรหรือไม่บรรทัดวัดได้เองอย่างง่ายๆ ถึงแม้จะไม่เป๊ะนัก แต่ก็ยังดีกว่าเดา เพราะตัวเลขที่ระบุไว้ ไม่ใช่ตัวเลขความกว้างของหน้ายางที่จะสัมผัสพื้น
![]() ความกว้างของยาง วัดจากส่วนที่ป่องสุดของยาง ซึ่งหน้ายางที่สัมผัสพื้นจริงๆ จะแคบกว่าประมาณ 15-35 มิลลิเมตร |
เท่าที่ทีมงานลองทดลองวัดจริง พบว่ายางรถยนต์ไม่ว่ายี่ห้อใดๆ ในรุ่นที่เน้นสมรรถนะ (ไม่เน้นความเงียบนัก) ราคาแพง แก้มเตี้ย ที่ระบุความกว้างของยางไว้เท่ากัน มักมีหน้าสัมผัสพื้นจริง มากกว่ายางขนาดเดียวกัน ซึ่งเป็นรุ่นที่เน้นความนุ่มนวล หรือราคาถูกกว่า
ยางที่ใช้งานทั่วไปมักมีความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสพื้น น้อยกว่าตัวเลขที่ระบุไว้มาก แต่ถ้าเป็นยางประสิทธิภาพสูง มักมีหน้ายางที่สัมผัสพื้นใกล้เคียงกับตัวเลขที่ระบุไว้มากกว่า ส่วนยางรถแข่งจะวัดและแสดงผลออกมา เป็นความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสพื้น
ความกว้างของกระทะล้อ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าสัมผัสจริงของยาง เพราะถ้าใช้กระทะล้อแคบกว่าความเหมาะสมของความกว้างของยาง ขอบยางที่ต้องแนบกับขอบกระทะล้อก็ต้องถูกบีบเข้า แก้มที่ถูกบีบเข้าจะทำให้หน้ายางด้านริมทั้งสองถูกยกขึ้น ส่งผลโดยตรงให้หน้าสัมผัสจริงแคบลงไปอีก
นอกจากนี้ยังไม่ควรรีบสรุปด้วยตัวเลขว่า ความกว้างของยางแค่ไหนจะแคบหรือกว้างไป เช่น ดูยางกว้างขนาด 185 มิลลิเมตร แล้วรีบสรุปว่าจะลื่น ต้องรีบเปลี่ยนออกหลังจากซื้อรถยนต์คันนั้นมาใช้ ทั้งที่ยังไม่ได้ทดลองขับเลย
เพราะรถยนต์แต่ละคันควรจะใช้ยางกว้างเท่าไร ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการขับด้วย ถ้าขับไม่เต็มสมรรถนะของรถยนต์ ยางกว้างขนาดมาตรฐานที่ติดมามักเพียงพออยู่แล้ว
การเพิ่มความกว้างของยางมากกว่าขนาดมาตรฐาน มีข้อดี คือ เพิ่มการเกาะถนน แต่ถ้าเพิ่มความกว้างทั้งที่ยางขนาดเดิมยังเกาะถนนเพียงพอ ก็ถือว่าไร้ประโยชน์ และมีข้อเสียมากมาย เช่น ราคายางแพงขึ้น รถยนต์มีอัตราเร่งแย่ลง ช่วงล่างพังเร็วขึ้น กินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น (แต่ก็มิได้แตกต่างกันมากมายนัก ถ้าเพิ่มความกว้างขึ้นไม่มาก และไม่ใช่ช่วงล่างต้องพังในทันที)
![]() ซีรีส์ยาง วัดจากริมขอบยางถึงด้านในสุด |
ซีรีส์ ต้องคำนวณก่อน
แค่ตัวเลขซีรีส์บนแก้มยาง เช่น 70, 65, 60, 55, 50 ฯลฯ ไม่สามารถสรุปได้ว่ายางที่มีตัวเลขซีรีส์น้อยต้องมีแก้มเตี้ยกว่าเสมอไป เพราะนั่นเป็นแค่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่มิลลิเมตรตรงตัว จึงต้องขึ้นอยู่กับความกว้างของยางด้วย
เช่น ยาง 60 ซีรีส์ ขนาด 205/60R14 มีแก้มสูง 205 x (60/100) = 123 มิลลิเมตร
ยาง 65 ซีรีส์ ขนาด 185/65R14 มีแก้มสูง 185 x (65/100) = 120.25 มิลลิเมตร
จากตัวอย่างพบว่า ยาง 60 ซีรีส์กลับมีแก้มสูงกว่ายาง 65 ซีรีส์
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ความสูงของแก้มยางที่คำนวณออกมาได้ เป็นเพียงแก้มยางด้านนอกที่สายตามองเห็น หลังจากใส่กับกระทะล้อแล้ว ซึ่งไม่ใช่ !
ซีรีส์ คือ ความสูงของแก้มยางทั้งหมด ตั้งแต่ขอบริมหน้ายางถึงขอบในสุด ไม่ใช่เฉพาะส่วนที่เหลือให้เห็นเมื่อใส่กับกระทะล้อแล้ว แต่รวมขอบด้านในสุดที่แนบกับขอบกระทะล้อด้วย
เส้นรอบวง
ไม่ว่าจะเปลี่ยนยางเป็นขนาดเท่าไร ใช้กระทะล้อขนาดเท่าไร ควรรักษาเส้นรอบวงของยางเส้นใหม่ ให้ใกล้เคียงกับยางขนาดมาตรฐานให้มากที่สุด ไม่ต้องคำนวณให้ยุ่งยากก็ได้ ให้เอายางใส่กระทะล้อแล้วสูบลม มาเปรียบเทียบกันเลย โดยอย่าลืมเผื่อดอกยางที่สึกต่างกันด้วย
แต่ถ้าอยากคำนวณหาความสูงหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของยางก็ไม่ยาก ให้หาความสูงของแก้มยางออกมาเป็นมิลลิเมตรก่อน นำไปคูณ 2 (เพราะมีแก้มยาง 2 ข้าง) แล้วบวกกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อที่คูณด้วย 25.4 เพื่อแปลงเป็นมิลลิเมตรไว้ก่อนแล้ว เมื่อบวกกันทั้งหมดจะได้หน่วยเป็นมิลลิเมตร
หน้าที่เข้าชม | 530,679 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 379,303 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 มี.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 12 ก.ย. 2568 |